หากพูดถึงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนคงหนีไม่พ้น “พระเครื่อง” วัตถุมงคงมลที่เปี่ยมไปด้วยพุทธคุณทั้งบัลดาลโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม และความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งพระเครื่องแต่ละรุ่นนั้นก็มีพุทธคุณแต่ละด้านแตกต่างกันไป การเลือกบูชาให้ถูกโฉลกมีความเข้ากันกับตัวผู้บูชาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ แล้วจะเลือกบูชาอย่างไรให้ถูกโฉลก? แนวทางการเลือกบูชาพระเครื่องนั้นมีหลายแบบ วันนี้เราจะมาแนะนำการเลือกบูชาตามราศีเกิด บูชารับทรัพย์ต้อนรับปีใหม่ ราศีเมษ 13 เมษายน – 14 พฤษภาคม สำหรับผู้ที่เกิดราศีเมษนั้น เป็นผู้ที่มีความคิดความอ่านว่องไวเฉียบคม ไหวพริบดี มีความว่องไวมั่นคง กล้าหาญ แต่ก็เป็นคนขี้น้อยใจ มักหมดกำลังใจได้ง่าย จุดอ่อนของคนราศีเมษคือเป็นคนขี้สงสารมากเกินไป ชอบช่วยเหลือผู้คนอื่น จนบางครั้งก็ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ผู้ที่เกิดราศีเมษนั้นมีมิตรสหายและพวกพ้องเป็นที่พึ่ง ชอบสร้างหลักปักฐานด้วยตัวเอง ด้านสุขภาพ ผู้ที่เกิดราศีเมษต้องระวังเรื่องความดันโรหิตสูงและโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ดังนั้นควรบูชาพระเครื่องประเภทพระผงยาหรือผงผสมว่าน ปางสมาธิ อย่างเช่น พระผงยาจินดามณีหลวงปู่บุญ(รุ่นใดก็ได้) พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด(รุ่นใดก็ได้) ราศีพฤษภ 15 พฤษภาคม – 14 มิถุนายน สำหรับผู้ที่เกิดราศีพฤษภนั้น มีความอดทน รอบครอบ แข็งแรง...

พระในระบบต้องผ่านอะไรมาบ้าง ? พระเครื่องในระบบของสยามอมูเลทคอลเลคชั่น จะต้องผ่านการตรวจโดยใช้เครื่องเอ็ซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ OLYMPUS รุ่นแวนต้า เพื่อตรวจหาธาตุหลักที่สำคัญในการตรวจสอบหาอายุพระเครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีมาตรฐานระดับโลก ดังนั้นการใช้เครื่องเอ็ซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ OLYMPUS จึงสามารถมั่นใจได้ว่ามีความเที่ยงตรงและแม่นยำในระดับมาตรฐานสากล โดยธาตุหลักที่สำคัญในการตรวจสอบหาอายุพระ ได้แก่ แคลเซียม ยูเรเนียม และ ทอเรียม หลังจากผ่านการตรวจโดยใช้เครื่องเอ็ซเรย์ฟลูออเรสเซนต์ OLYMPUS รุ่นแวนต้า แล้ว มีผลการตรวจว่า ผ่าน จะนำพระเครื่องไปยังกระบวนการชั่งตวงวัดเพื่อวัดและเก็บข้อมูลของขนาดพระเครื่อง น้ำหนัก และถ่ายภาพ ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญอีกหนึ่งอย่าง เนื่องจากพระเครื่องแต่ละองค์นจะมีน้ำหนักและขนาด ที่แตกต่างกัน ถึงแม้บางองค์จะมีหน้าตาหรือรูปลักษณ์ภายนอกที่ใกล้เคียงกันจนมองด้วยตาเปล่าไม่สามารถแยกได้ แต่ขนาดและน้ำหนักขององค์พระจะเป็นสิ่งที่ช่วยในการแยกพระเครื่องได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวัดขนาด น้ำหนัก ความกว้าง และส่วนสูง อย่างละเอียดเพื่อเป็นการเก็บบันทึกข้อมูล หลังจากผ่านกระบวนการชั่งตวงวัดและถ่ายภาพแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำพระเครื่องไปตรวจอัตลักษณ์โดยผู้เชี่ยวชาญผ่านกล้องขยาย 1000 X เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของพระเครื่องอย่างละเอียด โดยการตรวจอัตลักษณ์ภายนอกนั้นเป็นการตรวจสอบดูมวลสารสำคัญที่มักพบในพระเครื่อง...